วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

7 ข้อผิดพลาดบน Presentation ที่ควรแก้ไขในทันที


7 ข้อผิดพลาดบน Presentation ที่ควรแก้ไขในทันที
ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีหลักการ Presentation หรือแนวทางการนำเสนอมากมายหลายรูปแบบให้ได้เลือกใช้กัน นั่นคงเป็นเพราะการ Presentation นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดๆ ก็ควรที่จะมีความรู้ในด้านการทำ Presentation กันแทบทั้งนั้น แม้กระทั่งมีแต่ไอเดียแต่ยังไม่มีเงินทุน ก็ยังคงต้องอาศัย Presentationในการขายไอเดียตัวเองเพื่อให้นายทุนสนใจและเลือกที่จะลงทุนในธุรกิจเราอีกด้วย แต่เนื่องจากทุกคนน่าจะมีแนวทางการทำ Presentation ของตัวเองกันหมดแล้ว บทความนี้จะขอชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดบางอย่างในการทำPresentation ที่หลายคนอาจมองข้ามไป พร้อมทั้งแนวทางการแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านั้นด้วย
1.       จุดอ่อนของการเกริ่นนำ
การเกริ่นนำหรือ Introduction นั้นเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำ Presentation เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเราไม่สามารถดึงความสนใจจากบรรดาผู้ฟังมาได้ตั้งแต่ต้นแล้ว รับรองได้เลยว่าเนื้อหาที่เหลือในการนำเสนอนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการพูดคนเดียวในห้องว่างๆ อย่างแน่นอน
แนวทางแก้ไข: การเริ่มต้นเกริ่นนำให้น่าสนใจนั้น อาจเริ่มต้นจากการตั้งคำถามที่ชวนคิด จุดประเด็นให้เกิดการโต้แย้งขึ้นมาก่อน หรือเริ่มด้วยการเล่าเรื่องที่เราจะพูดคร่าวๆ ในส่วนที่สำคัญๆ ขึ้นมาก่อน โดยหัวใจสำคัญของการเกริ่นนำนั้นน่าจะอยู่ที่การอธิบายถึงจุดประสงค์ของหัวข้อที่เราต้องการจะพูดว่ามันมีความสำคัญต่อผู้ฟังอย่างไรบ้าง
2.       พูดเร็วเกินไป
ที่ผ่านมามีหลายหัวข้อที่มีเนื้อหาที่ดีน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่กลับตกม้าตายเนื่องจากการพูดเร็วเกินไป และโดยส่วนมากก็มักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการพูดเร็วเกินไปนั้นเป็นการลดคุณค่าทางข้อมูลในสิ่งที่เราพูดออกมา เพราะผู้ฟังนั้นไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลและคิดตามได้ จนสุดท้ายพอฟังไม่เข้าใจก็เลิกสนใจฟังไปอย่างน่าเสียดาย
แนวทางแก้ไข: หากมีเวลาลองซ้อมแล้วอัดวิดีโอตัวเองไว้เพื่อดูว่าเราพูดเร็วเกินไหมหรือไม่ ก่อนที่จะหาจังหวะที่ลงตัวที่สุดสำหรับการ presentation แต่ทั้งนี้ความตื่นเต้นในการพูดของจริงอาจทำให้เราพูดเร็วได้อยู่ดี ดังนั้นเราอาจจะพกโน้ตที่คอยเตือนตัวเองไว้ในทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาดู หรือหาคนรู้จักในกลุ่มคนดูไว้คอยให้สัญญาณหากเราพูดเร็วเกินไป
3.       เนื้อหามากเกินไป
บางทีการที่เนื้อหามาก อาจเป็นสาเหตุของการรีบพูดในหัวข้อข้างต้นก็ได้ เพราะด้วยเนื้อหาที่เยอะที่จะต้องการอธิบาย ไหนจะตัวอย่างประกอบ รวมไปถึงการตอบคำถามอีก ทำให้จากหัวข้อเดียวอาจทำให้แตกออกไปในอีกหลายประเด็นมากจนเกินไป
แนวทางแก้ไข: ทำได้โดยการรีวิวเนื้อหาก่อนพูดแล้วพิจารณาที่จะตัดเนื้อหาในส่วนที่ไม่สำคัญออกไปก่อน เพราะใน Presentation ที่เราประทับใจโดยส่วนมากนั้นสังเกตดูว่าเราจะจำเนื้อหาไม่ได้ทั้งหมด แต่จะจำคีย์สำคัญของเนื้อหาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากต้องการที่จะเพิ่มเนื้อหาที่น่าสนใจเข้าไปในการนำเสนอแล้วนั้น ก็ควรคิดให้ดีว่าเนื้อหาที่จะเพิ่มเข้าไปนั้นเกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ที่จะพูดมากน้อยเพียงใดก่อนตัดสินใจจะเพิ่ม
4.       อ่านตามสไลด์
ผู้นำเสนอส่วนมากนั้นมักนำตัวหนังสือมากมายขึ้นไปไว้บนสไลด์และนำเสนอโดยการอ่านข้อความเหล่านั้นแบบคำต่อคำสู่ผู้ฟัง ซึ่งตามหลักแล้วผู้ฟังนั้นไม่ได้อยากให้เราอ่านให้ฟัง เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการปริ๊นท์สไลด์แจกให้ผู้ฟังอ่านเองทุกคน ในขณะที่สิ่งที่ผู้ฟังต้องการนั้นก็คือรายละเอียดของหัวข้อที่ถูกนำเสนอด้วยกระบวนการที่น่าสนใจ
แนวทางการแก้ไข: สิ่งที่คนนำเสนอควรทำนั้นก็คือการใส่เฉพาะคีย์เวิร์ดหรือประโยคใจความสำคัญลงในสไลด์และอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อเหล่านั้นด้วยวิธีที่จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจและสนใจตามไปด้วย
5.       ซับซ้อนเกินไป
หากหัวข้อที่เราต้องการจะนำเสนอมีความซับซ้อนที่อาจยากเกินความเข้าใจของผู้ฟัง จนทำให้ผู้ฟังเลิกสนใจฟังไปภายในช่วงเวลาไม่นาน
แนวทางการแก้ไข: ถ้าหัวข้อของเรามีความซับซ้อนแล้วสิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือการเตรียมตัวและเตรียมสไลด์ที่จะช่วยนำเสนอให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น แทนที่สไลด์จะเป็นแค่ตัวอักษรแล้วนั้น ก็อาจมีเป็นแผนภาพหรือInfographic ประกอบการบรรยายเข้าไปด้วยก็จะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายขึ้น รวมไปถึงการพูดแล้วมีช่วงจังหวะคอยถามถึงความเข้าใจของผู้ฟัง และเปิดโอกาสให้ถามอยู่ตลอดก็จะสามารถผู้ฟังสามารถติดตามฟังได้อย่างเข้าใจตลอดหัวข้อ
6.       ไม่เตรียมการฝึกซ้อมมาก่อน
การทำ Presentation นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการแสดงดนตรีสด หรือแข่งขันกีฬาที่จะต้องมีการซ้อมเป็นอย่างดีก่อนที่จะถึงวันจริง ซึ่งในการนำเสนอแต่ละครั้งอาจใช้ระยะเวลาการซ้อมที่ไม่เท่ากันอาจขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ รวมไปถึงความยาวของเนื้อหาที่เราจะต้องบริหารจัดการตัวเองให้พร้อม
แนวทางแก้ไข: ฝึกซ้อมนำเสนองานแบบออกเสียง อาจใช้ทำการอัดวิดีโอไว้เพื่อมาดูผลและแก้ไขวิธีการนำเสนอให้ออกมาลงตัว
7.       พยายามเลียนแบบคนอื่น
เราทุกคนมีลักษณะการนำเสนอเฉพาะของตัวเอง บางคนนำเสนอได้อย่างหน้าตื่นเต้น บางคนก็มาสายนิ่ง ในขณะที่บางคนก็สร้างเสียงหัวเราะ แต่ในทางกลับกันก็มีคนที่เสนอในแบบจริงจัง แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนนั่นก็คือรูปแบบในการนำเสนอของเรา เพราะหลายคนที่เลือกจะเลียนแบบการนำเสนอของคนมีชื่อเสียงต่างๆ ก็จะพบว่ามันยาก และไม่เป็นธรรมชาติเลย
แนวทางแก้ไข: อย่าไปเลียนแบบสไตล์การนำเสนอของใคร แต่สามารถหยิบเอาจุดเด่นของพวกเขามาปรับใช้กับเราเองได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับหัวข้อและจุดประสงค์ของการพูดด้วยว่าเหมาะสมกันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามการเป็นตัวของตัวเองก็จะเป็นธรรมชาติในการนำเสนอมากที่สุด

การ Presentation นั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แม้กระทั่งผู้ที่มีประสบการณ์ Presentation อย่างเสมอมาก็ยังคงต้องอาศัยการฝึกซ้อมอยู่ทุกครั้งที่พูดหัวข้อใหม่ๆ ทาง Incquity จึงหวังว่าผู้อ่านทุกคนจะสามารถนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้กับการ Presentation ของตัวเองเพื่อลดข้อผิดพลาดที่มีให้น้อยลงได้ไม่ยาก

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ประโยชน์เป็นผู้ชำนาญการศุลกากร

เกิดขึ้นครั้งแรกอย่างเป็นรูปธรรมตาม ประกาศกรมศุลกากรที่ ๙๖/๒๕๔๓ ว่าด้วยเรื่อง ตัวแทนออกของรับอนุญาต ซึ่งหมายถึงนิติบุคคล ที่กรมศุลกากรต้องการจัดระดับ ความเป็นมาตรฐาน มีคุณภาพ ในด้านการให้บริการเกี่ยวกับพิธีการศุลกากร โดยถูกกำหนดไว้เป็นหลักเกณฑ์ ให้ตัวแทนออกของที่จะได้รับการจัดระดับ หรือรับรองมาตรฐานจากกรมศุลกากร จะต้องมี ผู้ชำนาญการศุลกากรปฏิบัติงานประจำอยู่กับตัวแทนออกของ ซึ่งโดยเจตนารมณ์ในเบื้องต้นนั้น กรมศุลกากรมิได้คาดหวังว่า บุคคลโดยทั่วไปจะมาเป็น ผู้ชำนาญการศุลกากรได้ดี หรือจะมีมากนัก แต่กลับมุ่งเน้นไปที่ บุคลากรของกรมศุลกากรซึ่งใกล้จะเกษียณอายุราชการ และอาจจะยังมีความพร้อมที่จะทำงาน ทั้งสุขภาพทางกาย และจิตใจ ที่ยังไม่ต้องการหยุดพักผ่อนเสียทีเดียว
แต่ด้วยลักษณะงานบริการทางด้านโลจิสติกส์ของภาคเอกชน มักมีลักษณะที่แตกต่างจากโครงสร้างของงานในระบบราชการ โดยเฉพาะกรมศุลกากร ซึ่งในทางปฏฺบัติจริง มักไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่เกษียณอายุ หรือสอบผ่านเป็นผู้ชำนาญการศุลกากร ได้เข้ามามีบทบาทเท่าที่ควร และในระยะหลังๆนี้ กลับจะเห็นว่าผู้เข้ารับการอบรมผู้ชำนาญการศุลกากรล้วนมีแนวโน้มเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ (ไฟแรง) ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจก้าวเข้าสู่วิชาชีพนี้มากขึ้น

ประโยชน์ขอการสอบเป็นผู้ชำนาญศุลกากรหลักๆ ก็คือ
1.
สามารถนำความรู้ในด้านงานศุลกากรไปปฎิบัติงานด้านการนำเข้า - ส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาความผิดพลาดอันที่จะ
ก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัทได้ในภายหลัง
2.
นำความรู้ไปเผยแพร่แก่พนักงานในบริษัท เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายศุลกากร รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
3.
ให้คำปรึกษากับบริษัทเกี่ยวกับงานด้านศุลกากรต่างๆ (เพื่อให้รู้เท่าทัน บริษัทชิปปิ้ง หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ตาม)
4.
เป็นผู้ชำนาญการศุลกากรประจำบริษัทตัวแทนออกของรับอนุญาต  ซึ่งตามระเบียบของกรมศุลกากรระบุจะต้องมีผู้ชำนาญการฯ ประจำบริษัท
อย่างน้อย 1 คน  (ห้ามนำชื่อไปอ้างใช้กับบริษัทอื่นซ้ำกันด้วย) 
        
ดังนั้นผู้ที่สอบผ่านเป็นผู้ชำนาญการศุลกากรจึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มบริษัทตัวแทนออกของรับ


๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ขออนุญาตให้ความเห็นท่านเจ้าของกระทู้ ในฐานะผู้ชำนาญการศุลกากรคนหนึ่ง  ประโยชน์ขอการสอบเป็นผู้ชำนาญศุลกากรหลักๆ ก็คือ
1. สามารถนำความรู้ในด้านงานศุลกากรไปปฎิบัติงานด้านการนำเข้า - ส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาความผิดพลาดอันที่จะ
ก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัทได้ในภายหลัง
2. นำความรู้ไปเผยแพร่แก่พนักงานในบริษัท เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายศุลกากร รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
3. ให้คำปรึกษากับบริษัทเกี่ยวกับงานด้านศุลกากรต่างๆ (เพื่อให้รู้เท่าทัน บริษัทชิปปิ้ง หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ตาม)
4. เป็นผู้ชำนาญการศุลกากรประจำบริษัทตัวแทนออกของรับอนุญาต  ซึ่งตามระเบียบของกรมศุลกากรระบุจะต้องมีผู้ชำนาญการฯ ประจำบริษัท
อย่างน้อย 1 คน  (ห้ามนำชื่อไปอ้างใช้กับบริษัทอื่นซ้ำกันด้วย)
         ดังนั้นผู้ที่สอบผ่านเป็นผู้ชำนาญการศุลกากรจึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มบริษัทตัวแทนออกของรับอนุญาต  บริษัท Freight Forwarder
หรือแม้แต่ บริษัทผู้นำเข้า - ส่งออกรายใหญ่ๆ  และที่สำคัญหากคุณเก่งจริง รายได้จึงค่อนข้างดี - ดีมาก

วันที่ 15 มิ.ย. 59 ปราบปรามเหล็กนำเข้า

วันที่ 15 มิ.ย. 59
นสป.สทก.ร่วมกับ ฝบศ.1 สบศ.1 สทก. ได้ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า นำเข้าสินค้าเป็น แผ่นเหล็กกล้ารีดร้อน s50c สำแดงประเภทพิกัด 7210.70.10 ใช้สิทธิ ACN ยกเว้นอากร
ตรวจสอบของจริงพบ ของเป็นเหล็กกล้าไม่เจือ ผ่านกระบวนการรีดร้อน ผ่านการจัดทำผิวโดยการขจัดสะเก็ดสนิมที่ผิวเหล็กออก ผ่านการเคลือบสี แต่ชั้นของผิวสีที่เคลือบไม่มีความสม่ำเสมอตามมาตรฐานการทาสี ISO 12944-5 และของมีลักษณะตรงตาม EN Chapter 72 (IV)(C)(2)(c)
จึงเห็นควรจัดของเข้าประเภทพิกัด 7208.51.00 อัตราร้อยละ 5
กรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จ เป็นเหตุให้อากรขาด 37,268.1 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มขาด 2,608.76 บาท

ปราบปราม นำเข้าเหล็ก ใช้สิทธิ ACN วันที่ 15 มิถุนายน 2559

วันที่ 15 มิถุนายน 2559 นสป.พื้นที่ สทก. ฝปป.1 สปป.1 สสป. ร่วมกับ ฝบศ.2 สบศ.2 สทก. ได้ทำการตรวจสอบใบขน สำแดงชนิดของเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นรีดทำด้วยเหล็กกล้าเจือ (โบรอน) จำนวน 54 c62 ราคา 3,470,595.23 บาท พิกัด 7210.49.99ใช้สิทธิ ACN อัตรา 0% จากการตรวจสอบของจริง , เอกสารประกอบการนำเข้า , Form E , Mill quality certificates และผลการวิเคราะห์ของสถาบันเหล็กฯ พบว่า ของเป็นเหล็กกล้าเจือโบรอนผ่านการรีดเย็นและเคลือบผิวด้วยโลหะเจือสังกะสีและอลูมิเนียมด้วยวิธีการจุ่มร้อน แต่ขนาดและมาตรฐานชั้นเคลือบตามผลวิเคราะห์ไม่ตรงกับใน Form E จึงไม่อาจผ่อนผันให้ใช้ Form E ได้ เห็นควรจัดเข้าพิกัด 7225.99.90 รหัสย่อย 29 อากร 5% ในฐานะเหล็กกล้าเจืออื่นๆ มีความกว้างมากกว่า 600 mm ผ่านการชุบหรือเคลือบด้วยโลหะเจือของอลูมิเนียมและสังกะสี กรณีมีความผิดฐานกรณีสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากรตาม ม.99,27 เป็นเหตุให้อากรขาด 173,529.76 บาท vat ขาด 12,147.08 บาท

ปราบปรามการนำเข้าเหล็ก วันที่ 20 มิ.ย. 59

วันที่ 20 มิ.ย. 59
นสป.สทก.ร่วมกับ ฝบศ.3 สบศ.1 สทก ได้ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า นำเข้าสินค้าเป็น แผ่นสเตนเลสรีดเย็น เกรด SUS304 สำแดงประเภทพิกัด 7211.23.90 รหัสสถิติ 090 กำเนิดประเทศญี่ปุ่น ใช้สิทธิ BOI ยกเว้นอากร
ตรวจสอบของจริง พบของเป็นแผ่นสเตนเลสรีดเย็น ตรงกับที่ระบุในเอกสาร Inspection Certificate และผู้นำของเข้ายื่นหนังสือชี้แจงว่าของมีผิวหน้า 2B เห็นควรจัดของเข้าประเภทพิกัด 7220.20.90 รหัสสถิติ 032 อัตราอากร 5% และต้องชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาด 50.92%
กรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จ เป็นเหตุให้อากรตอบโต้การทุ่มตลาดขาด 253,809.70 บาท

ปราบปราม เหล็ก นำเข้า

นสป.สสล.ฝปป1.สปป1.สสป. ร่วมกับ ฝบศ7.สบศ1.สสล. ตรวจพบความผิดกรณีสำแดงพิกัดเป็นเท็จ ใบขนสินค้าขาเข้าสินค้ามี 2 รายการ สำแดงเป็นเหล็กแปตัวซี (C-PURLIN) ประเทศกำเนิด China ปริมาณ 8,380.000 C62 น้ำหนักสุทธิ 74,614.000 KGM ราคาของ 1,094,394.44 บาท
ชำระอากรตามประเภทพิกัด 7308.90.99 อัตราอากร 0% VAT 7% ใชสิทธิ ACN
ตรวจสอบสินค้าพบชนิดสินค้าเป็น เหล็กรูปพรรณ รูปตัว C ชุบสังกะสี ปริมาณ เมืองกำเนิด และน้ำหนักตรงตามสำแดง ต้องชำระอากรตามประเภทพิกัด 7216.99.00
อัตราอากร 12% VAT 7% ใช้สิทธิ ACN เป็นเหตุให้ภาษีอากรขาด 140,514.00 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าสินค้าดังกล่าวต้องได้รับการรับรองจาก สมอ. หรือไม่

วันที่ 28 มิ.ย. 59 ปราบปรามเหล็กนำเข้า

วันที่ 28 มิ.ย. 59
นสป.พื้นที่ สกท.ฝปป.1 สปป.1 สสป.ร่วมกับ ฝบศ.1 สพจ. สกท. ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า นำเข้าสินค้า เหล็กท่อนแบน ทำด้วยเหล็กกล้าเจือรีดร้อน สำแดงประเภทพิกัด 7228.30.90 กำเนิดประเทศจีน ใช้สิทธิ ACN ยกเว้นอากร
ตรวจสอบของจริง ตรงตามสำแดง แต่เอกสาร FORM E ช่อง 11 ระบุ Importing Country เป็น PHILIPPINES เป็นกรณีที่ข้อเท็จจริงที่ตรวจพบไม่ตรงกับเกณฑ์การได้ถิ่นกำเนิดที่ระบุใน Form E ผู้นำเข้าจึงไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นอากรได้ ต้องชำระอากรขาเข้าร้อยละ 5
กรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากร เป็นเหตุให้อากรขาด 77,153 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มขาด 5,400 บาท

ปราบปราม เหล็ก วันที่ 11 ก.ค. 59 กรมศุลฯ

วันที่ 11 ก.ค. 59 
นสป.สทก. ฝปป.1 สปป.1 สสป.ร่วมกับจนท.ฝบศ.1 สบศ.2 สทก.ได้ทำการตรวจสอบ ใบขนสินค้า สำแดงของจำนวน 7 รายการ เป็นเหล็กพับทาสี ประเภทพิกัด 7212.40.90 รหัสสถิติ 090 และหน้าแปลน ประเภทพิกัด 7307.91.90 ใช้สิทธิ ACN ยกเว้นอากร
ตรวจพบรายการที่ 3-7 ตรงตามสำแดง
แต่รายการที่ 1 ตรวจลักษณะทางกายภาพ พบเป็นแผ่นเหล็กถูกดัดขึ้นรูปทำมุม 120 องศา และรายการที่ 2 ตรวจลักษณะทางกายภาพ พบเป็นเหล็กรูปพรรณรูปตัว U ขาสูง 400 มม. ทั้งสองรายการพบรอยพับของเหล็กในจุดที่ถูกดัดทำมุมและเอกสารชี้แจงกระบวนการผลิตของผู้นำเข้าระบุว่าของทำโดยการนำเหล็กแผ่นมาพับทำมุม ขึ้นรูป จึงเห็นควรจัดของทั้งสองรายการเข้าประเภทพิกัด 7216.91.00 อัตรา 10% ในฐานะมุม รูปทรง และหน้าตัดรูปต่างๆ ขึ้นรูปขณะเย็นหรือตกแต่งขณะเย็น ได้จากผลิตภัณฑ์แผ่นรีด หากใช้สิทธิ ACN ต้องชำระอากร 12%
กรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากร เป็นเหตุให้อากรขาด 53,513.69 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มขาด 3,745.95 บาท

ปราบปราม เหล็ก วันที่ 22 กรกฎาคม 2559

วันที่ 22 กรกฎาคม 2559
นสป.พื้นที่ สทก ร่วมกับ ฝบศ.2 สบศ.1 สทก. ตรวจสอบของตามใบขนสินค้าขาเข้า นำเข้าสินค้าเป็นเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียมและสังกะสี เจือโบรอน มูลค่า 10,123,623.65- บาท ใช้สิทธิ Form E ภายใต้ประเภทพิกัด 7225.99.90 
จากการตรวจสอบพบ ของรายการที่ 2,3,4. มูลค่าของ 4,789,952.63- บาท เป็นเหล็กแผ่นรีดเย็นทำด้วยเหล็กกล้าไม่เจือ เคลือบด้วยโลหะเจือของอะลูมิเนียมและสังกะสี ประเภทพิกัด 7210.61.11 (024) ต้องชำระอากรร้อยละ 5 และ อากรตอบโต้ทุ่มตลาดร้อยละ 29.50 เป็นเหตุให้อากรขาดดังนี้ร้อยละ 29.50 เป็นเหตุให้อากรขาดดังนี้
อากรขาด 239,497.63 บาท
AD ขาด 1,413,036.02 บาท
VATขาด 115,677.35 บาท
ถูกใจ

เหล็ก ปราบปราม วันที่5 มิย

.
จึงเห็นควรจัดของที่มีขนาดความหนา 1.9 มม. เข้ารหัสสถิติ 072 และจัดของที่มีขนาดความหนา ตั้งแต่ 2 มม. ขึ้นไป เข้ารหัสสถิติ 052 ซึ่งของตามประเภทพิกัด 7208.39.00 รหัสสถิติ 052 และ 072 กำเนิดประเทศเกาหลี อยู่ภายใต้บังคับประกาศคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ต้องชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาด ในอัตรา 13.58%
กรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเป็นเหตุให้อากรตอบโต้การทุ่มตลาดขาด 3,694,485.49 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มขาด 258,613.99 บาท และต้องชำระค่าปรับอากรตอบโต้การทุ่มตลาด 500,000 บาท รวมทั้งสิ้น 4,453,099.59 บาท
ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น